Monday 10 March 2008

wcs 20 Chapter 8 High-Speed WLANs and WLAN Security

ขอบคุณนุ้ย อำพร จ้า
วัตถุประสงค์
- อธิบายว่า IEEE 802.11 a มีหน้าที่อย่างไรและต่างจาก 802.11 อย่างไร
- โครงสร้าง 802.11g เพิ่มจาก 802.11b อย่างไร
- อธิบายมาตรฐานใหม่และจะมีขึ้นในอนาคต และปรับปรุงเครือข่าย 802.11 อย่างไร
- บรรยายประโยชน์ของ Wireless bridge และ wireless switch มีหน้าที่เพิ่มเติมและการจัดการ WLANs เพิ่มเติมอย่างไร
- รายการพื้นฐานและลักษณะการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมและประเด็นของเครือข่าย IEEE 802.11

IEEE 802.11 a
- เป็นมาตรฐานในชั้น MAC เหมือน 802.11 b WLANs ซึ่งต่างก็ถูกจำกัดอยู่ในชั้น Phy Layer
มีความเร็วและความซับซ้อนเหนือกว่า 802.11 b ดังนี้
- ย่านความถี่สูงขึ้น
- ช่องการส่งสัญญาณมากขึ้น
- เทคนิคซับซ้อนกว่ามาก
- Error-correction มีประสิทธิภาพมากกว่า
- ใช้ U-NII Frequency Band ซึ่งเป็น short range, high speed wireless
- U-NII Frequency Band แบ่งเป็นสี่ช่องตาม max power limit
- 5 GHz แก่ผู้ใช้และเทคโนโลยีอื่นๆ นอกเหนือจาก WLANs
ดูรูปหน้า 5 -6
- ช่องทางที่ใช้ของ 802.11 b ถูกแบ่งเป็น 11 ช่องใน USA ซึ่งในการใช้ครั้งหนึ่งจะใช้ สาม ช่องที่ไม่ซ้อนทับพร้อมกันได้
- 802.11 a แบ่งได้ 8 ช่องความถี่ แบ่งเป็น Low band (5.15 ถึง 5.25 GHz) และ Middle band (5.25 ถึง 5.35 GHz) ความถี่แต่ละช่องมีความกว้าง 20 MHz ที่สนับสนุน 52 สัญญาณพาหะ

หลักการ OFDM
ช่องสัญญาณที่ใช้ จะใช้ทั้ง 48 ช่อง ในการส่งข้อมูล แต่ใช้ความเร็วต่ำในการส่ง ทำให้ไม่รบกวนกัน เมื่อไปถึงปลายทาง ปลายทางจะรับข้อมูลพร้อมกันและนำมารวมกัน สรุป 1. ส่งเป็นช่วงย่อย 2. ส่งความเร็วต่ำ

Error Correction ใน 802.11a
เนื่องจากสามารถส่งข้อมู,ที่เหมือนกันมากกว่า 1 ก็อปปี้ได้ เพราะกลัวก็อปปี้แรกหาย พอส่งก็อปปี้สอง (FEC)
ก็รับมาเปรียบเทียบกันว่าตรงกันหรือไม่

802.11a PHY Layerแบ่งได้สองส่วน คือ PMD ขึ้นอยู่กับเทคนิคฮาร์ดแวร์ และ PCCP จะอยู่บน PMD โดยสร้างรูปแบบข้อมูลที่รับจาก MAC Layer อีกครั้ง ในรูปแบบเฟรมที่ชั้น PMD สามารถใช้รับฝส่ง ต่อได้ และทำหน้าที่คอยฟังว่าจะส่งข้อมูลได้เมื่อไร

802.11 a สามารถรับส่งได้สั้นกว่า 802.11 b เนื่องจากความถี่ หากความถี่สู.จะส่งได้สั้นลง แต่ได้เปรียบกรณีอยู่ในอาคารจะชัดเจนกว่า

IEEE 802.11 g
ความแตกต่าง 802.11g สามารถรับส่งได้เหมมือน 802.11a แต่ใช้ย่านความถี่เดียวกับ 802.11b

802.11g PHY Layer
-ใช้ OFDM เหมือน 802.11a
-ช่องสัญญาณใช้ได้เพียงสามช่องเหมือนกับ 802.11b
-ใช้ DSSS ก่อนแล้วค่อยใช้ OFDM

802.11e
-เป็นมาตรฐานเพื่อรองรับ QoS
-สามารถจัดลำดับเฟรมในโหมด DCF ได้
-ทุกๆ เฟรมทั่รับส่ง ต้องมีการส่ง ACK กลับมาก่อนถึงจะส่งเฟรมถัดไป

802.11n
-ออกแบบเพื่อสามารถรับส่งข้อมูลเร็วกว่าเดิม โดยใช้ย่านความถี่ 2.4 GHz
-เป้าหมายคือดาต้าเรทสูงกว่า 100 Mbps โดยใช้ 2.4 GHz ISM band

802.11r
-เพื่อลดเวลาในการเปลี่ยน Access Point ร่นเวลาการรับส่ง AP ให้น้อยลง

Wireless Bridges and Repeaters
พูดถึงระบบการเชื่อมต่อ
802.11b bridge สามารถส่งได้ถึง 18 miles(29 km) ที่ 11 Mbps หรือถึง 25 miles(40 km) ที่ 2 Mbps
802.11a bridge สามารถส่งได้ถึง 8.5 miles(13.5 km) ที่ 11 Mbps หรือถึง 20 miles(30 km) ที่ 28 Mbps

Wireless Switching
รองรับ Qos เช่น Voice เพื่อลดต้นทุนในการบริหารจัดการ

ฟังก์ชันใหม่ที่เพิ่มเข้ามา คือ Wireless home & office
Wireless presentation,media,VoIP gateway
Wireless gaming adapter

~The End~

Reference
Wireless# Guide to Wireless Communications Second Edition ของ Jorge Olenewa and Mark Ciampa

No comments: